รีวิวหนัง
ส่องรีวิว It: Chapter two มันโผล่จากนรก 2

ส่องรีวิว It: Chapter two มันโผล่จากนรก 2 : ข่าวภาพยนตร์
เข้าโรงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับภาพยนตร์ภาคต่ออย่าง It: Chapter two หรือ อิท โผล่จากนรก 2 ผลงานเขียนจากนักเขียนนิยายสยองขวัญชื่อดังอย่างสตีเฟ่น คิง กำกับโดย Andy Muschietti ครั้งนี้ปีศาจร้าย ในคราบตัวตลกสุดหลอนอย่าง เพนนี่ไวซ์(Pennywise) ก็ได้กลับมาอีกครั้ง และยังโหดมากกว่าเดิมอีกด้วย
หลังจากโดนเหล่าเด็กๆ ช่วยกันปราบไปแล้วในภาคแรก แต่ ‘มัน’ ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะมันจะกลับมาเยือน เมืองเดอร์รี่ รัฐเมนส์ ทุกๆ 27 ปี เพื่อจับตัวเด็กๆ ไป ทำให้กลุ่มเด็กที่เคยสัญญาว่าจะกลับมา ถ้ามันมาอีก และตอนนี้กลายเป็นผู้ใหญ่ต้องมาร่วมมือกันกำจัดมันอีกครั้ง นำแสดงโดย บิลล์ สการ์สการ์ด(เพนนี่ไวซ์), เจมส์ แม็คอะวอย(บิล เดนโบรห์), เจสสิก้า แชสเทน(เบเวอร์ลี่ มาร์ช), บิลล์ เฮเดอร์ (ริชชี่ โทซิเออร์), ไอเซห์ มุสตาฟา (ไมค์ ฮานลอน), เจย์ ไรอัน(เบน แฮนส์คอม), เจมส์ แรนซัน(เอ็ดดี้ แคสพ์แบรก) และแอนดี้ บีน (สแตน อูริส)
หลังภาพยนตร์เข้าฉาย พบว่าคะแนนรีวิวค่อนข้างต่างกัน คะแนนจากฝั่งนักวิจารณ์อยู่ที่ 64% ขณะที่คนดูทั่วไปอยู่ที่ 80% ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ฝั่งนักวิจารณ์ Kevin Maher จาก Times UK “หนังไม่มีพลังมากพอ และมิตรภาพความเป็นเพื่อนของเด็กๆ ก็เหมือนกับซีรีย์ Goosebumps (แจ๊ค แบล็ก+ เหล่าสัตว์ประหลาด = หลับ)”
Adam Graham จาก Detroit News “หนังเรื่องอิท ไม่เคยบอกว่ามันเกิดมาจากความกลัวใบหน้าของมัน หรือเป็นจิตใต้สำนึกของเรา เลยทำให้เกิดความสับสน”
Jeffrey Bloomer จาก Slate “เห็นได้ชัดว่าผู้สร้างภาพยนตร์ ล้มเหลวในการใส่อะไรลงไปในหนัง มันเลยไม่สมบูรณ์ และผลลัพธ์ก็เลยออกมาไม่ค่อยดี
ฝั่งคนดูทั่วไปก็ออกมาบอกว่า “องค์ประกอบของหนังสยองขวัญส่วนใหญ่เป็นปรากฏการณ์ป๊อปคอร์น แต่ความดราม่าที่แฝงอยู่นั้นน่าสนใจมาก หนังเก่งในการสร้าง เกี่ยวกับการเอาชนะความกลัวในวัยเด็กจากภาคแรก มาสู่ผู้ใหญ่ที่เรียนรู้ที่จะรับมือกับความเจ็บปวด”
“งดงาม, การแสดงอันน่าทึ่ง, ลื่นไหล, ความศรัทธา และการแสดงอารมณ์ที่น่าพึงพอใจในช่วงครึ่งหลัง รู้สึกถึงสิ่งที่อาจเป็นตำนานสยองขวัญที่แท้จริงครั้งแรก”
“นานกว่าที่ควรจะเป็น แต่เต็มไปด้วยฉากจั๊มพ์สแกร์ที่ยอดเยี่ยม และดูสมจริง พอใจมากกับข้อสรุปว่านี่คือ It ฉบับรีบู๊ต”
หากอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็คงต้องไปดูด้วยตัวเอง It: Chapter two ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.ฉายแล้ว
รีวิว The Cave นางนอน – เล่าเรื่องใหญ่ในเวลาน้อย ขาดๆหายๆ ไม่รู้จะโฟกัสใคร

THE CAVE นางนอน ภาพยนต์ที่สร้างมากจากเรื่องจริง บอกเล่าเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ดึงความสนใจจากทั่วโลก เหตุการณ์ 12 นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าและโค้ช เข้าไปติดอยู่ภายในถ้ำหลวงและต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำและความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่ายทั่วทุกมุมโลก กระทั่งสามารถนำเด็กๆทั้ง 12 คน และโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าออกมาได้อย่างปลอดภัย.
THE CAVE นางนอน ได้ผู้กำกับลูกครึ่งไทยไอริช ทอม วอลเลอร์ ที่มีผลงานก่อนหน้าอย่าง “ศพไม่เงียบ” โดยตัวหนังส่วนใหญ่โฟกัสไปที่ทีมงานจากต่างชาติที่เข้ามามีส่วนร่วมในภาระกิจครั้งนี้. มีการพูดถึงความยากทั้งความยากของภาระกิจและความยากในการประสานงานกับหน่วยงานไทย. มีการพูดถึงพาร์ทของช่วงบ้านในพื้นที่อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ภาระกิจช่วยเหลือมากกว่า.

ภาพ: thaipost
อย่างที่บอกว่าตัวหนังส่วนใหญ่โฟกัสไปที่การทำภาระกิจ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว นั่นจึงทำให้พาร์ทของเด็กๆทีมหมูป่าและโค้ชนั้นกลายเป็น side story ไปเลย และด้วยความดีต้องการจะนำเสนอดีเทลที่ค่อนข้างมีมากในเวลาที่จำกัดทำให้มันยังไม่ค่อยสุด. ถึงจะโฟกัสไปที่การทำภาระกิจ แต่ตัวหนังกับไม่มีสิ่งที่เป็นเหมือนหัวใจของการดำเนินเรื่องเลย มีก็น้อยมาก เหมือนเป็นการจับเอาส่วนต่างๆจากเหตุการณ์จริงมารวมกัน แต่ไม่มีบุคคลหลักที่จะพาตัวเรื่องเดินไป.
มีหลายๆพาร์ทที่ดูเหมือนจะขาดหายไป อย่างเช่นพาร์ทของสื่อต่างๆจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างประโคมข่าวกันยกใหญ่จนกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก แต่หนังกลับเล่าส่วนนี้น้อยมาก. พาร์ทที่ควรจะมีอย่างผู้ว่าฯ พาร์ทของหน่วยซีล และอื่นๆที่ขาดหายไป.

ภาพ: prachachat
ส่วนของตัวละครนั้นต้องบอกว่าไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ด้วยความที่เป็นการเอาคนที่เป็นนักแสดงจริงๆที่เราคุ้นหน้าคุ้นตามาผสมปนเปกับบุคคลที่เป็นตัวจริงที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์จริงๆ ซึ่งเมื่อนำไปรวมกับพล็อตที่ไม่รู้ว่าจะโฟกัสไปที่ใคร ยิ่งทำให้เหตุการณ์และตัวละครที่ควรจะเด่นกลับดร็อปลงซะงั้น. ดูเหมือนจะมีการพูดถึงตัวละครตัวหนึ่งอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ตัวละครนั้นกลายเป็นตัวดำเนินเรื่องไปได้และหลายครั้งก็ถูกกลบไปได้ฉากตัวละครอื่นๆ. ตัวละครบางตัวก็ทำให้เรางง ทั้งที่เป็นตัวละครที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในเหตุการณ์จริง อย่างผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งในหนังมีการใช้นักแสดงระดับเทพอย่างอา หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา มารับบทแต่กลับมีการพูดถึงและโผล่มาไม่กี่ฉาก แล้วช่วงหลังๆกลับเอาผู้ว่าฯคนจริงและฟุตเทจจากเหตุการณ์จริงมาใส่แทนซะงั้น อ้าว แล้วตอนแรกที่มา หายไปไหน.
พูดถึงเรื่องของมุมมองต้องบอกว่าค่อนข้างย้อนแย้งในตัวเองอยู่พอสมควร บางฉากก็เหมือนจะเป็นมุมของภาพยนต์ แต่บางฉากก็เหมือนเป็นมุมมองของสาระคดี. พาร์ทที่ควรจะมีความระทึกอย่างฉากนำตัวเด็กๆออกจากถ้ำ กลับไม่ระทึกเท่าที่ควร. พาร์ทของดนตรีมีความเป็นไทย สวยงามตามท้องเรื่อง.
สรุปคือ The Cave นางนอน หนังสาระคดีที่เล่าเหตุการณ์จริงถ่ายทอดผ่านทั้งนักแสดงและบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จริง. ไม่ขอออกความคิดเห็นว่าดีหรือไม่ หรือควรจะไปดูหรือไม่ เพียงแค่อธิบายจากประสบการณ์ที่ได้ไปดูมาแล้วเท่านั้น ส่วนใครอยากรู้ เชิญพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเองวันนี้ ในโรงภาพยนต์.
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.รีวิวหนัง
รีวิว ‘เคว้ง’ มีแผลประปราย ปลายทางคือความทะเยอทะยานน่าค้นหา

รีวิวฉบับกระชับ ‘เคว้ง the stranded’ มีแผลประปราย ปลายทางคือความทะเยอทะยานน่าค้นหา ไม่สปอยล์
รีวิว เคว้ง Netflix – เคว้ง คือออริจินอลซีรีย์เรื่องแรกของไทยบน Netflix ความยาว 8 ตอนจบ ความรู้สึกแรกหลังดูเทรลเลอร์จบคือ กลัวว่าจะซ้ำรอยกับ Lost ซีรีย์ติดเกาะในตำนาน ซึ่งหากบทเดินทางไปซ้ำรอยเท้ารับรองว่าต้องเกิดการเปรียบเทียบแน่ ๆ
เคว้ง คือความเคว้งคว้างของเหล่านักเรียนม.ปลายกว่า 30 ชีวิตบนเกาะปินตู หลังเกิดเหตุสึนามิพัดถล่มเกาะจนกลายเป็นเกาะร้าง พวกเขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รอคอยความช่วยเหลือที่ดูเหมือนไม่มีวันมาถึง ทางเดียวที่จะอยู่รอดคือต้องหาทางออกไปจากเกาะนี้ให้ได้
นี่คือโครงเรื่องที่เรารับรู้จากตัวอย่าง เกาะปินตูคือเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนทะเลอันดามัน ห่างจากแผ่นดินใหญ่กว่าร้อยกิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงเรียนมัธยมปลายไฮโซ ที่พอสึนามิพัดมาก็เหมือนกวาดประชากรอื่นบนเกาะไปหมดสิ้นจนเหลือแต่เด็กนักเรียนวัยรุ่นเลือดร้อน และไร้เดียงสาต่อการเอาชีวิตรอด
ในช่วงแรกของหนังบทหลาย ๆ จุดมีความรู้สึกแปลก และไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทพูดในบางประโยคบางตอน ฉากบางฉากที่จัดวางการแสดงและองค์ประกอบของหมู่มวลเป็น “ละคร” ไปหน่อย การกระทำในหลาย ๆ ครั้งของตัวละครก็ดูจับวางและขัดๆ นิดๆ แต่เมื่อผ่านครึ่งเรื่องไปได้ ทุกอย่างก็ค่อย ๆ เข้ารูปเข้ารอย และความสนุกก็กระหน่ำใส่ไม่หยุด โดยเฉพาะ 3 ตอนสุดท้าย
เคว้งใส่ปมปัญหาลึกลับให้เราชวนสงสัย กระหายคำตอบ ที่แม้จะมีการเล่าย้อนพาร์ตอดีตสลับกัน แต่พาร์ทส่วนอดีตที่สำคัญต่อ “ปมหลัก” ของเรื่องยังไม่ได้ถูกเผยออกมาหมด นี่คือสิ่งที่ดึงผู้ชมให้อยากดูไปจนถึงตอนสุดท้าย คนเขียนบทสามารถนำพล็อตดาษดื่นอย่างการ “ติดเกาะ” มาผนวกรวมกับกลิ่นอาย วรรณคดี ความลึกลับพันลึกแบบไทย ๆ ได้ค่อนข้างดีทีเดียว และสิ่งที่บทเฉลยตอนท้ายเรื่องคือความทะเยอะทะยานที่พาเราไปไกลเกินกว่าแค่การเอาชีวิตรอดของกลุ่มนักเรียนธรรมดามาก
อีกปมหนึ่งที่คู่กับพล็อตการเอาชีวิตโลกหลังสังคม/โลก ล่มสลาย คือการจัดการกับความสัมพันธ์ของกลุ่มสังคมที่ต้องก่อร่างสร้างใหม่ ลำดับชั้นของคนที่ถูกจัดแบ่งเพื่อให้พวกเขาดำรงชีวิตและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมใน ‘เคว้ง’ คือเหล่าลูกคุณหนูวัยไม่พ้นมัธยม ไม่มีผู้ใหญ่คอยชี้แนะแนวทาง นั่นจึงอาจเป็นความสมเหตุสมผลของความไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร ทว่าน่าเสียดาย แม้ว่าบทจะพาตัวละครขยี้ปมไปถึงจุดวิกฤติโกลาหล แต่เรากลับไปรู้สึกร่วมไปกับชะตากรรมตัวละครเท่าใดนัก อาจเป็นเพราะสถานการณ์ในเรื่องที่ “เอื้อ” ให้ตัวละคร “สบาย” เกินไป
เคว้ง ซีซั่น 1 ชวนให้นึกถึง ออริจินอลซีรีย์เรื่องดังจากเยอรมัน “ดาร์ก” ที่ซีซั่นแรกอัดปมปัญหามาอย่างเนืองแน่น แต่แทบไม่เฉลยอะไรให้คนดูคลายความค้างคาใจนัก เชื่อว่าซีซั่น 2 น่าจะเฉลยแบบจัดเต็มและสนุกกว่านี้มาก เพราะโครงเรื่องได้ขยายเซตติ้งไปไกลและใหญ่มาก
สิ่งที่ต้องชื่นชมอีกอย่างคืองานภาพที่สวยงาม สามารถถ่ายทอดความงดงามของธรรมชาติบนเกาะปินตูออกมาได้หมดจดจนอยากตามรอยเที่ยว ดนตรีประกอบทำออกมาค่อนข้างสมบูรณ์ โปรดักชั่นระดับสากล
เมื่อดูจบไม่ได้ทำให้เรานึกว่านี่คือ Lost เวอร์ชั่นไทย แต่คือเคว้ง ซีรีย์ไทยที่สามารถดูได้ในระดับสากล แม้ว่าจะไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบนัก มีแผลประปรายตลอดเรื่อง แต่ด้วยวัตถุดิบ ไอเดียของบทมีดีพอกับคำชื่นชม
คะแนน : 8/10
ขอบคุณภาพจาก: netflixth
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.รีวิวหนัง
รีวิว Midway ยุทธการเดือด จุดเปลี่ยนเกมรบสงครามโลก

รีวิว Midway ยุทธการเดือด จุดเปลี่ยนเกมรบสงครามโลก
หนังประวัติศาสตร์สงครามโลกมักจะถูกสร้างขึ้นมาอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวของ Midway อเมริกาถล่มญี่ปุ่น หรือยุทธการมิดเวย์ เหตุการณ์สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง โรแลนด์ เอมเมอริช (Roland Emmerich) ผู้เคยฝากผลงานอลังการอย่าง Independence Day, The Day After Tomorrow มาแล้ว
Midway หรือ ยุทธการมิดเวย์ เป็นยุทธการที่สำคัญที่สุดในแนวรบด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ของช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการรบระหว่างกองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพญี่ปุ่นที่กินเวลาเพียง 4 วัน แต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนเกมรบที่สำคัญ เพราะการชิงชัยเหนือพื้นที่ Midway Atoll ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพของอเมริกากลางมหาสมุทร จะกำหนดผู้ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในการรบทั้งแปซิฟิกทันที ถ้าญี่ปุ่นชิงพื้นที่นี้ได้ก็จะเป็นฐานในการบุกจู่โจมเรือรบที่เหลืออยู่ของอเมริกาได้ และทำให้แนวรุกโต้กลับของอเมริกาเป็นไปได้ยาก ถ้าจะข้ามมาโจมตีเอเชีย หากใครเคยชม Pearl Harbor (2001) กำกับโดยไมเคิล เบย์ (Michael Bay) มาก่อน ก็จะรู้สึกคุ้นๆ บ้าง เพราะเหตุการณ์นี้ห่างกันเพียง 6 เดือนเท่านั้น ซึ่ง Pearl Harbor เกิดวันที่ 7 ธันวาคม 1941 และ Midway เกิดระหว่างวันที่ 4-7 มิถุนายน 1942
สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเหล่านักแสดงที่มาร่วมเล่น รับบทตัวละครที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ แค่มาดูนักแสดงก็คุ้มแล้วจริงๆ ทั้งเอ็ด สไครน์(Ed Skrein), แพทริก วิลสัน(Patrick Wilson), ลูค อีแวนส์(Luke Evans), วูดดี้ ฮาร์เรลสัน(Woody Harrelson), เดนนิส เควด(Dennis Quaid), อารอน เอ็กฮาร์ต(Aaron Eckhart), อเล็กซานเดอร์ ลุดวิก(Alexander Ludwig), แมนดี้ มัวร์(Mandy Moore), นิก โจนาส(Nick Jonas), โตโยกาวะ เอทสึชิ (Toyokawa Etsushi), อาซาโน่ ทาดาโนบุ(Tadanobu Asano), คุนิมูระ จุน(Kunimura Jun)
หนังไม่ปล่อยให้ผู้ชมพักหายใจเลย เพราะแค่เริ่มเรื่องมาก็รบกันแล้ว ไม่ยืดเยื้อ และน่าเบื่อเลย ฉากแอ็คชั่นแบบหนังสงครามมาแบบจุใจ จัดหนักจัดเต็มปล่อยของไม่ยั้ง หนังใช้การเล่าเหตุการณ์ในหลายๆ มุมมอง ให้เห็นทั้ง 2 ฝั่ง คืออเมริกา และญี่ปุ่น ในการวางแผนการรบ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราไม่รู้สึกเข้าข้างไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ตัวละครหลักเยอะมาก แต่มีการกระจายบทได้ดี โดยใช้หน้าที่ของตัวละครในการแบ่ง คือฝั่งเรือรบ นักบิน ผู้บัญชาการกองทัพ หน่วยข่าวกรอง คนวางแผน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการบอกข้อมูลวัน เดือน ปี เวลา สถานที่ได้อย่างครบถ้วนทำให้เข้าใจเหตุการณ์ได้ง่าย ไม่สับสน ที่ต้องขอชมคือฉากรบกันอย่างดุเดือด และลุ้นจนแทบลืมหายใจ ทั้งกระสุน ระเบิด โดยเฉพาะฉากเครื่องบินรบ ทิ้งระเบิดลงเรือของคู่ต่อสู้ ที่ถึงจะดูโม้หน่อยๆ แต่ก็ตื่นเต้นมาก รวมถึงการถ่ายทำที่ทำให้รู้สึกสมจริง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ด้วยความที่ตัวละครมาก ถึงแม้จะเกลี่ยบทได้ดี แต่บางตัวก็ออกมาน้อยเกินไป และไม่มีการเอ่ยถึงต่อ เป็นการเล่าเหตุการณ์ให้เห็นเท่านั้น และกลับมาโฟกัสที่เหตุการณ์หลักต่อคือการรบ ส่วนบางฉากตัดมาแบบห้วนๆ และไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่ก็เป็นข้อด้อยเพียงเล็กน้อยที่พอจะมองข้ามไปได้
หากใครเป็นแฟนหนังประวัติศาสตร์สงครามโลก หรือต้องการความบันเทิง ก็ไม่ควรพลาด เพราะนี่คือหนังสงครามที่ดีอีกเรื่องนึงเลย
ภาพจาก: imdb
ติดตามข่าวสารจาก The Thaiger ได้ทางเฟซบุ๊ก.- กีฬา2 days ago
8 ธ.ค. โปรแกรมถ่ายทอดสด “ซีเกมส์ 2019” พร้อมสรุปเหรียญล่าสุด
- กีฬา16 hours ago
9 ธ.ค. ถ่ายทอดสด “ซีเกมส์” ครั้งที่ 30 รอบบ่าย – DOTA2 ซีเกมส์ เทควันโด มวย ฯลฯ
- กีฬา4 days ago
6 ธ.ค. สรุปเหรียญ “ซีเกมส์ 2019” พร้อมโปรแกรมถ่ายทอดสด
- วอลเลย์บอล4 days ago
วอลเลย์บอลชายไทยองค์ลง ตบเมียนมาร์ ลิ่วเข้ารอบรองชนะเลิศ
- กีฬา4 days ago
6 ธ.ค. ถ่ายทอดสด “ซีเกมส์ 2019” รอบบ่าย – ดูตะกร้อซีเกมส์ 2019
- วอลเลย์บอล4 days ago
6 ธ.ค. ถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลไทย-เมียนมาร์ ซีเกมส์ 2019
- บันเทิง3 days ago
ชมชุดฟ้าใส ฟาดรอบพรีลิมมินารี Miss Universe 2019
- พรีเมียร์ลีก2 days ago
จัดเต็มทั้งคู่! 11 ตัวจริง แมนซิตี้ พบ แมนยู – พร้อมช่องทางรับชม