ไม่มีหมวดหมู่

ย้ายออกไป ได้ดีทุกคน! รวม 7 แข้งสตาร์ดัง เฉิดฉายอีกครั้ง หลังพ้นร่มเงา แมนฯ ยูไนเต็ด

รวม 7 นักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่กลับโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง หลังย้ายออกจากทัพ ปีศาจแดง

 

  • โรเมลู ลูกากู

ถ้าพูดถึงหัวข้อนี้ ชื่อของ ลูกากู คงเข้ามาในหัวของเพื่อนๆอย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงินกว่า 76 ล้านปอนด์ให้กับ เอฟเวอร์ตัน เพื่อนำเขามาเป็นกองหน้าคนใหม่ของทีม

แต่กลายเป็นว่าดาวยิงชาวเบลเยี่ยมกลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง อีกทั้งรุปร่างที่ดูจะอ้วนท้วนยิ่งกว่าเดิม ทำให้ 2 ปีต่อมาทัพ ปีศาจแดง ตัดสินใจขายเขาไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่จากแดนมักกะโรนี

และที่เมืองมิลาน ลูกากู สามารถกลับมาโชว์ฟอร์มเทพได้อีกครั้ง และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทัพ งูใหญ่ คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้มาครองได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่แล้ว ก่อนีท่ในฤดูกาลนี้ ลูกากู จะกลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อีกครั้ง ในสีเสื้อของ เชลซี

 

  • เมมฟิส เดปาย

เมื่อปี 2015 แมนฯ ยูไนเต็ด 25 ล้านปอนด์ให้กับ พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น เพื่อดิงตัว เดปาย ซึ่งในตอนนั้นเป็นดาวรุ่งฟอร์มดีที่น่าจับตามองคนหนึ่งแห่งวงการฟุตบอลฮอลแลนด์ อีกทั้งการได้รับเสื้อหมายเลข 7 ทำให้แฟนบอลต่างคาดในตัวเด็กหนุ่มคนนี้

แต่กลายเป็นว่า เดปาย ทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยทำไปได้เพียงแค่ 7 ประตูจากการลงสนาม 53 เกม

ก่อนที่ทัพ ปีศาจแดง จะปล่อยตัว เดปาย ไปให้กับ ลียง ทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส ไปด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ และนั่นคือที่ๆ เดปาย กลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง โดยเจ้าตัวซัดไปได้ 76 ประตูจากการลงสนาม 178 เกม ก่อนที่ปีก่อน เดปาย จะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แบบไม่มีค่าตัว

 

  • อังเคล ดิ มาเรีย

ในปี 2014 แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างเสียงฮือฮาด้วยการทุ่มเงิน 59.7 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว ดิ มาเรีย มาจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทีม ซึ่งในตอนนั้นถือว่าดาวเตะชาวอาร์เจนติน่ากลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ และเขาเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับเสื้อหมายเลข 7

แต่กลายเป็นว่า ดิ มาเรีย ทำผลงานได้สวนทางกับค่าตัว หลังทำไปได้เพียงแค่ 4 ประตูจากการลงสนาม 32 เกม ทำให้ในปีต่อมาทัพ ปีศาจแดง จะตัดสินใจขายแข้งรายนี้ไปให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมเศรษฐีใหม่จากแดนน้ำหอม

หลังจากนั้น ดิ มาเรีย ก็สามารถทำผลงานได้ดีอีกครั้ง พร้อมกับยึดตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้อย่างเหนียวแน่น และกลายเป็นนักเตะกำลังสำคัญของ เปแอสเช มาจนถึงปัจจุบัน

 

  • วิลฟรีด ซาฮา

เมื่อปี 2013 แมนฯ ยูไนเต็ด จ่ายเงิน 15 ล้านปอนด์ในการดึงตัว ซาฮา มาจาก คริสตัล พาเลซ และถือว่าเป็นนักเตะคนสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของทีม ซื้อเข้ามาเสริมทัพ

ทว่าในปีต่อมา ในยุคของ เดวิด มอยส์ เจ้าตัวถูกปล่อยตัวไปให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในสัญญายืมตัว และหลังจากนั้น ซาฮา ตระหนักได้แล้วว่า เขาต้องการย้ายออกจากัทพ ปีศาจแดง

ในปีต่อมา ซาฮา ย้ายไปอยู่กับต้นสังกัดเก่าของเขาอย่าง คริสตัล พาเลซ ในสัญญายืมตัว พร้อมกับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนสุดท้ายทัพ ปราสาทเรือนแก้ว จะยอมจ่ายเงิน 10 ล้านปอนด์เพื่อให้ ซาฮา อยู่กับทีมแบบถาวร

จนถึงวันนี้ ซาฮา กลายเป็นหนึ่งในนักเตะตัวรุกริมเส้นที่อันตรายที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นนักเตะที่บรรดาทีมใหญ่ต้องระวังทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับ คริสตัล พาเลซ

 

  • ดาลีย์ บลินด์

ในปี 2014 แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้จัดการดึงตัว บลินด์ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาด้วยค่าตัว 14.1 ล้านปอนด์ หลังเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลก 2014 กับทีมชาติฮอลแลนด์

แต่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เพราะตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่ทัพ ปีศาจแดง เจ้าตัวถูกโยกไปเล่นหลายตำแหน่ง ทั้ง แบ็คซ้าย, เซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้าย รวไมปถึงกองกลางตัวรับ นั่นทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นของ บลินด์ ลดลงอย่างน่าใจหาย

สุดท้ายในปี 2018 บลินด์ จะตัดสินใจย้ายกลับไปค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ อีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าดาวเตะชาวดัตช์กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด และเป็นกำลังสำคัญของทีมในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ช่วยให้ต้นสังกัดผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในปี 2019

 

  • ดิเอโก้ ฟอร์ลัน

ฟอร์ลน ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2002 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ซึ่งในตอนนั้นถือว่าแพงสำหรับการซื้อนักเตะคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าใน 18 เกมแรกทั้งในเกมลีก และฟุตบอลยุโรป กองหน้าชาวอุรุกวัยกลับยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว

สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ปล่อย ฟอร์ลัน ไปให้กับ บียาร์เรอัล ในปี 2007 และที่นั่นเอง ฟอร์ลัน สามารถทำประตูไปได้ 25 ประตู พร้อมกับคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของลีก และรางวัลรองเท้าทองคำของยุโรปได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกกับทัพ เรือดำน้ำสีเหลือง

 

  • ราดาเมล ฟัลเกา

ฟัลเกา สร้างชื่อจากการลงเล่นให้กับ แอตเลติโก้ มาดริด ก่อนที่เจ้าตัสจะย้ายไปอยู่กับ โมนาโก ทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส ซึ่งทั้งสองที่ ดาวยิงชาวโคลอมเบียสามารถยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ ก่อนที่ในปี 2014 แมนฯ ยูไนเต็ด จะตัดสินใจยืมตัว ฟัลเกา มาร่วมทีม

แต่กลายเป็นว่า ฟัลเกา กลับทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเจ้าตัวยิงประตูไปได้เพียงแค่ 4 ประตูจากการลงสนาม 29 เกม อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บบริเวรเข่าคอยรบกวนอีก

ทว่าในปีต่อมา เชลซี ก็ขอยืม ฟัลเกา จากโมนาโกมาร่วมทีม แต่สุดท้ายตัวนักเตะก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขาไม่เหมาะกับการเล่นในลีกอังกฤษ

หลังสิ้นสุดสัญญายืมตัว ฟัลเกา ต้องกลับมารับใช้ต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง โมนาโก ในปี 2016 และกลับมายิงประตูได้มากมายสมฉายา ‘เอล ติเกร’ อีกครั้ง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button