พรีเมียร์ลีก

ดุมพลาดโทษ! ไฮไลท์ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้ (4-5) – เรือใบคว้าถาด

ไวจ์นัลดุมพลาดโทษ! ไฮไลท์ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้ (4-5) – เรือใบคว้าถาดคอมมูนิตี้ ชิลด์ : ไฮไลท์ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผลบอลลิเวอร์พูล แมนซิตี้ Community Shield

ลิเวอร์พูล 1-1 แมนซิ – วันที่ 4 สิงหาคม การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยการกุศลเอฟเอ คอมมูนิตี้ชิลด์ 2019 ระหว่างแชมป์เอฟเอคัพ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล พบกัน แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ณ สนามเวมบลีย์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ

11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

  • LIVERPOOL: Alisson; Alexander-Arnold, Gomez, Van Dijk, Robertson; Fabinho, Henderson, Wijnaldum; Salah, Firmino, Origi.
  • MAN CITY: Bravo, Walker, Stones, Otamendi, Zinchenko, Rodri, Silva (C), De Bruyne, Sane, Bernardo, Sterling.

รูปเกมโดยรวมในครึ่งแรก เป็นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่า และสร้างโอกาสจบได้ชัดเจนกว่ามาก ส่วนลิเวอร์พูลการต่อบอลยังขาดๆ เกินๆ 45 นาทีแรกจึงเป็นช่วงเวลาแห่งเกมสวนกลับของลิเวอร์พูล โดยมีโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกชาวอียิปต์เป็นคนจุดประกาย

นาทีที่ 8 จังหวะสำคัญ ลิเวอร์พูลทำสวย ซาลาห์ ได้หลุดไปยิงไป แต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 9 ลีรอย ซาเน่ ที่กำลังเป็นข่าวกับ บาเยิร์น วิ่งเบียดไปกับ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จนล้มได้รับบาดเจ็บ ท่าทางน่าเป็นห่วง จนต้องเปลี่ยน กาเบรียล เฆซุส ลงมา

จนในที่สุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ หลังจาก ดาบิด ซิลบา เกี่ยวบอลต่อให้ สเตอร์ลิง แปลอดตัวอลิสซอน บอลปลิ้นเข้าประตูไป ซิตี้ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 12

นาทีที่ 15 โม ซาลาห์ ได้เผาเครื่องทางฝั่งขวา ลากตัดเข้ามายิงเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว

นาทีที่ 17 เรือใบเกือบขึ้นนำ 2-0 เดอบรอยน์ได้บอลในกรอบเขตโทษยิงไปติดเซฟอลิสซอน สเตอร์ลิงได้ซ้ำ แต่อลิสซอนก็ยังป้องกันไว้ได้

ช่วง 20 นาทีแรกจังหวะเข้าทำของ เรือใบ ดูวูบวาบมากกว่า ลิเวอร์พูลยังต่อบอลในเกมของตัวเองไม่ได้ อาศัยจังหวะสวนกลับเพียงอย่างเดียว จนนาทีที่ 29 ซาลาห์ได้บอลเก็บตกจากลูกโหม่งของซินเชนโก้ในเขตโทษ เจ้าตัวเลือกยิงแบบดีดๆ บอลยังข้ามคานออกไปอีก

ลิเวอร์พูลเริ่มครองบอลในแดนซิตี้มากขึ้น แต่จังหวะบอลสุดท้ายยังไร้ซึ่งความอันตราย ต้องชื่นชมแผงหลังแมนซิเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านมาจนถึงนาทีที่ 42 เป๊บ กวาร์ดิโอล่า กุนซือเรือใบ ประเดิมใบเหลืองแรกของซีซั่นในฐานะผู้จัดการทีม หลังจากไปบ่นใส่กรรมการ ก่อนจบครึ่งแรก 0-0

ครึ่งหลังเริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที ทั้งสองทีมมีโอกาสเน้นๆ กันคนละครั้ง โอริกิได้บอลในเขตโทษยิงไปติดกองหลังแมนซิ หลังจากนั้นซิตี้บุกขึ้นมาบ้าง และเกือบทำประตูทิ้งห่าง 2-0 เมื่อสเตอร์ลิง หลุดไปเอียงตัวยิงชนเสา แต่ไลน์แมนสาวยกธงล้ำหน้าไปก่อน

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ลิเวอร์พูลเริ่มบุกหนักขึ้น มีทั้งจังหวะของ ฟานไดค์ ที่ได้แปตามน้ำจากลูกเตะมุม บอลกระเด้งไปชนคาน ตกลงมาทาบเส้นประตู โกล์ไลน์ตัดสินชัดเจนว่ายังไม่เข้าทั้งใบ ก่อนที่อีกนาทีต่อมา ซาลาห์ ได้โอกาสซัดไปชนเสาเหน่งๆ อีกรอบ ลิเวอร์พูลยังตีเสมอไม่ได้ สกอร์อยู่ที่ 1-1

นาทีที่ 62 โอริกิลงไปนอนเจ็บอยู่บนพื้นสนาม ผู้เล่นแมนซิไม่ได้เตะบอลทิ้งให้ แถมแทงบอลให้สเตอร์ลิงหลุดเข้าไปดวล 1-1 แต่เจ้าตัวทำช้า อลิสซอนคว้าไว้ได้ สุดท้ายผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมเพื่อเช็คอาการของ ดิว็อค โอริกี้

ซาลาห์วันนี้ มีโอกาสได้ส่องประตูเยอะมาก แต่บอลก็ยังไม่เข้าไปซุกก้นตาข่ายเสียที จนในที่สุดลิเวอร์พูลก็มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ เฮนเดอร์สัน ครอสบอลฟรีคิกเข้ากรอบเขตโทษ ไคล์ วอล์คเกอร์ โหม่งบอลไม่ขาด จนกองหลัง 75 ลป. เปิดสวยๆ มาให้ มาติป โขกเน้นๆ ลิเวอร์พูล 1-1 แมนซิ

10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์ครองเกมใส่ซิตี้ อย่างหนัก ทั้งจังหวะซัดเน้นๆ ของเกต้า และซาลาห์ แต่บอลยังแฉลบข้ามคาน รวมถึงโดน บราโว่เซฟไว้ได้

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูลบุกอย่างหนักหน่วง ต้องการประตูขึ้นนำ ซาลาห์หลุดไปซัดติดบล็อกของ บราโว่ แต่เจ้าตัวยังใช้ศีรษะโหม่งบอลย้อยจะเข้าประตู แต่ ไคล์ วอล์คเกอร์ บินมาจากไหนไม่รู้ กระโดดเคลียร์บอลออกจากเส้นประตูไปแบบเหลือเชื่อสุดๆ

ทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ชาคิรี่ ได้ยิงแต่ยังติด บราโว่ จบเวลา 90 นาทีทั้งสองทีมต้องไปดวลจุดโทษกัน และกลายเป็น ไวจ์นัลดุม ที่ยิงไปโดนเคลาดิโอ บราโว่ ปัดไว้ได้ แพ้ไปด้วยสกอร์ 4-5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ มาครองได้สำเร็จ

Embed from Getty Images

ไฮไลท์ฉบับเต็ม >>> คลิ๊ก

ไฮไลท์ช่วงดวลจุดโทษ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button